ทำความรู้จักกับการฟอกฟันขาว

การฟอกฟันขาว (Teeth Whitening) เป็นวิธีที่ช่วยให้ฟันขาวขึ้นอย่างรวดเร็วและได้ผลชัดเจน แต่ต้องทำอย่างถูกวิธีเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง เช่น เสียวฟันหรือระคายเคืองเหงือก

วิธีฟอกฟันขาวที่นิยม

1. ฟอกฟันขาวที่คลินิก (Professional Whitening)
– วิธีนี้ปลอดภัยและเห็นผลเร็วที่สุด (ฟันขาวขึ้น 5-8 เฉดในครั้งเดียว)
– ทันตแพทย์จะใช้ เจลฟอกฟันที่มีสารเปอร์ออกไซด์ความเข้มข้นสูง ร่วมกับแสงเลเซอร์หรือแสงพิเศษเพื่อเร่งปฏิกิริยา
– เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์เร็วและมีฟันสีเหลืองหรือคล้ำจากอาหาร/คราบชา กาแฟ

2. ฟอกฟันขาวแบบทำที่บ้านด้วยเครื่องมือจากทันตแพทย์ (Take-Home Kit)
– ทันตแพทย์จะทำ พิมพ์ปากเฉพาะบุคคล และให้เจลฟอกฟันความเข้มข้นต่ำมาทำเองที่บ้าน
– ต้องใส่ถาดฟอกฟันวันละ 1-2 ชั่วโมง หรือทิ้งไว้ข้ามคืน ประมาณ 1-2 สัปดาห์
– เหมาะสำหรับคนที่ต้องการประหยัดและมีเวลา

3. ผลิตภัณฑ์ฟอกฟันขาวทั่วไป
– ยาสีฟันฟอกฟันขาว : ช่วยลดคราบแต่ทำให้ขาวได้น้อย
– แผ่นฟอกฟันขาว (Whitening Strips) : เห็นผลบ้าง แต่บางคนอาจเสียวฟัน
– น้ำยาบ้วนปากฟอกฟันขาว : ช่วยรักษาสีฟันแต่ไม่ได้ทำให้ขาวขึ้นมาก

ข้อควรระวัง
– ผลข้างเคียง : อาจมีอาการเสียวฟันชั่วคราวหรือเหงือกรอบๆ ระคายเคือง
– ไม่เหมาะกับทุกคน :
– ผู้ที่มีฟันกร่อน ฟันผุ หรือเหงือกอักเสบ ควรรักษาก่อนฟอกฟัน
– ฟันที่มีสีคล้ำจากภายใน (เช่น ฟันตายจากอุบัติเหตุ) อาจต้องรักษาด้วยวิธีอื่น เช่น วีเนียร์หรือครอบฟัน
– คนที่มีฟันเหลืองจากอายุ (ฟันชั้นในเป็นสีเหลืองตามธรรมชาติ) อาจขาวได้ไม่มาก

วิธีดูแลหลังฟอกฟันขาว
✅ หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่ทำให้ฟันคล้ำ เช่น กาแฟ ชา ไวน์แดง น้ำอัดลม สูบบุหรี่
✅ แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟัน เพื่อป้องกันคราบสะสม
✅ ใช้ยาสีฟันสำหรับฟัน หากมีอาการเสียวฟัน

ทางเลือกอื่นหากฟอกฟันไม่ได้ผล
– วีเนียร์ (Veneers) : แผ่นเซรามิกบางๆ ปิดหน้าฟัน สำหรับคนที่ฟันสีคล้ำมากหรือฟันไม่เรียบ
– ครอบฟัน (Crowns) : หากฟันเสียหายมาก

หากต้องการฟอกฟันขาว แนะนำให้ปรึกษาทันตแพทย์ก่อน เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะกับสภาพฟันของคุณที่สุดค่ะ 😊