บริการของเรา

SERVICE

จัดฟัน

ทันตกรรมเพื่อฟันสวย ดูแลง่าย แบบไม่เคยเป็นมาก่อน

การจัดฟันคืออะไร ?

การจัดฟันเป็นกระบวนการที่ใช้เครื่องมือพิเศษ เช่น เหล็กดัดฟัน รีเทนเนอร์ หรืออุปกรณ์จัดฟันแบบใส เพื่อค่อยๆ ขยับฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยกระบวนการนี้อาจใช้เวลาหลายเดือนถึงหลายปี ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล    แก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันและการสบฟันที่ผิดปกติ ไม่เพียงช่วยให้รอยยิ้มดูสวยงามขึ้น แต่ยังช่วยปรับปรุงสุขภาพช่องปากให้ดีขึ้นอีกด้วย

ประเภทของการจัดฟัน

  1. การจัดฟันแบบโลหะ (Metal Braces) เป็นรูปแบบที่พบมากที่สุด ใช้เครื่องมือจัดฟันที่ทำจากโลหะติดบนฟันและใช้ยางโอริง (O-ring) ช่วยดึงฟันให้เข้าที่ มีประสิทธิภาพสูงและเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันซ้อนเกหรือสบฟันผิดปกติรุนแรง
  2. การจัดฟันแบบใส  เป็นการจัดฟันที่ใช้ชุดเครื่องมือใสที่สามารถถอดเข้า-ออกได้ สะดวกและดูเป็นธรรมชาติ แต่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันไม่ซับซ้อนมาก ต้องการความสวยงาม และความสะดวกในการดูแลช่องปาก

ข้อดีของการจัดฟัน

  • ช่วยให้ฟันเก ฟันห่าง ฟันซ้อน เรียงตัวสวยงาม เป็นระเบียบอย่างเหมาะสม
  • ช่วยให้การสบฟันดีขึ้น ส่งผลให้การบดเคี้ยวอาหารทำได้ดีขึ้น
  • ช่วยให้สุขภาพช่องปากและฟันดีขึ้น เพราะเมื่อฟันเรียงตัวเป็นระเบียบ การทำความสะอาดจึงเข้าถึงฟันทุกซี่ ทำให้ฟันผุน้อยลง
  • ช่วยให้ฟันเข้าที่ ทำให้โครงสร้างใบหน้าให้ดูสมส่วนมากขึ้น
  • ช่วยส่งเสริมให้มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ยิ้มสวยขึ้น เพิ่มความมั่นใจให้มากขึ้น

ข้อควรระวังหลังจัดฟันเหล็ก

  1. ในช่วงที่จัดฟันโลหะการรับประทานอาหารมักมีเศษอาหารติดฟันได้ง่าย และทำความสะอาดได้ยากขึ้น ดังนั้นควรใส่ใจในการทำความสะอาดให้มากขึ้น เพื่อป้องกันปัญหากลิ่นปากและฟันผุ
  2. ควรงดอาหารแข็ง เหนียว และเคี้ยวได้ยาก เพื่อลดความเสียหายของฟัน
  3. ควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจการเคลื่อนตัวของฟัน และเครื่องมือจัดฟันตามกำหนด หากละเลยจะทำให้ต้องใช้ระยะเวลาในการจัดฟันนานขึ้น และอาจทำให้เกิดปัญหาทางช่องปากเพิ่มขึ้นได้

จัดฟันโลหะจัดนานเท่าไหร่

ระยะเวลาในการรักษาการจัดฟันโลหะจะขึ้นอยู่กับโครงสร้างฟัน ระยะเวลาการเคลื่อนตัวของฟัน รวมถึงปัญหาทางด้านสุขภาพฟันของแต่ละคน ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 1-3 ปี แต่บางคนก็อาจใช้เวลานานกว่านี้ เนื่องจากต้องมีการถอนฟัน และมีการผ่าตัดร่วมกับการจัดฟันโลหะด้วย ดังนั้นก่อนตัดสินใจจัดฟันโลหะ ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อตรวจและประเมินการรักษาให้รับทราบข้อมูลที่ชัดเจนเสียก่อน

การจัดฟันใส

การจัดฟันใส Invisalign คืออะไร?

Invisalign เป็นเทคนิคการจัดฟันแบบใสแบบหนึ่งที่ใช้ ชุดเครื่องมือพลาสติกใส ออกแบบผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ในการค่อยๆ ขยับฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม แตกต่างจากการจัดฟันแบบโลหะหรือแบบดามอนตรงที่ไม่มีเหล็ก หรือลวดติดอยู่ที่ฟัน จึงทำให้ดูเป็นธรรมชาติและสบายกว่าการจัดฟันแบบดั้งเดิม ทำโดยทันตแพทย์ที่ผ่านการอบรมโดย Invisalign เป็นผู้พิจารณาแผนการจัดฟัน

ข้อดีของการจัดฟัน Invisalign

  • มองไม่เห็น – ถาดจัดฟันมีลักษณะโปร่งใส จึงช่วยให้ยิ้มได้อย่างมั่นใจตลอดการรักษา
  • ถอดได้สะดวก – สามารถถอดออกได้เวลาทานอาหารและแปรงฟัน ทำให้รักษาความสะอาดในช่องปากได้ง่ายกว่าการจัดฟันแบบติดเครื่องมือ
  • สบายกว่า – ไม่มีลวดหรือเหล็กที่อาจก่อให้เกิดแผลในปาก ลดอาการระคายเคือง
  • เห็นผลลัพธ์ล่วงหน้า – ใช้เทคโนโลยี 3D จำลองผลลัพธ์ก่อนเริ่มการรักษา

Invisalign เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่ต้องการจัดฟันแต่ไม่อยากให้คนอื่นสังเกตเห็น
  • ผู้ที่ต้องการความสะดวก สามารถถอดออกได้เมื่อต้องการ
  • ผู้ที่มีปัญหาฟันซ้อนเก เล็กน้อยถึงปานกลาง
  • ผู้ที่สามารถมีวินัยในการใส่ถาดจัดฟัน โดยใส่อย่างน้อยวันละ 20-22 ชั่วโมง การถอดนานเกินไปอาจทำให้ผลลัพธ์ล่าช้า

Invisalign เหมาะกับใคร?

  1. เข้าพบทันตแพทย์ – ตรวจสุขภาพฟันและสแกนฟันด้วยระบบดิจิทัล ทันตแพทย์จะประเมินว่า สามารถรักษาด้วยอินวิซาไลน์ได้หรือไม่  หากได้ทันตแพทย์จะทำการถ่ายรูปในช่องปากและใบหน้า เอ็กซเรย์ พิมพ์แบบฟัน 
  2. ออกแบบแผนการรักษาพูดคุยแผนการรักษาด้วยอินวิซาไลน์ โดยมีภาพ 3D จากคอมพิวเตอร์ที่จะทำให้เห็นการเคลื่อนของฟันเป็นลำดับขั้นตอนตั้งแต่ใส่เครื่องมืออินวิซาไลน์ชิ้นที่ 1 จนถึงชิ้นสุดท้าย
  3. รับถาดจัดฟันชุดแรก – ถาดแต่ละชุดจะถูกออกแบบมาเพื่อขยับฟันทีละเล็กน้อย ฟันจะเคลื่อนไปตามแผนที่วางไว้
  4. เปลี่ยนถาดทุก 2 สัปดาห์กลับมาพบทันตแพทย์เป็นระยะตามนัดหมาย เพื่อตรวจสอบการเคลื่อนฟันว่าเป็นไปตามแผนหรือไม่
  5. ติดตามผลและรับรีเทนเนอร์

หากต้องการคำแนะนำจากเรา