บริการของเรา

SERVICE

อุดฟัน

รักษาและป้องกันฟันผุอย่างมีประสิทธิภาพ

การอุดฟัน เป็นหนึ่งในวิธีการทางทันตกรรมที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการรักษาฟันผุ หรือฟันที่เสียหายจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น การแตกหรือสึก การอุดฟันไม่เพียงช่วยฟื้นฟูรูปร่างและการใช้งานของฟัน แต่ยังช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามไปสู่ระดับที่รุนแรงยิ่งขึ้น เช่น การติดเชื้อที่โพรงประสาทฟัน

สาเหตุที่พบบ่อยของฟันผุ

ฟันผุเกิดจากแบคทีเรียในช่องปากที่ย่อยสลายเศษอาหาร โดยเฉพาะอาหารที่มีน้ำตาลสูง แบคทีเรียจะผลิตกรดที่ทำลายผิวเคลือบฟัน เมื่อเวลาผ่านไป กรดจะกัดเซาะเนื้อฟันจนเกิดรูหรือโพรง 

สาเหตุอื่นที่ทำให้คนไข้ต้องมาอุดฟันได้แก่ ฟันที่แตกบิ่นจากอุบัติเหตุ การกัดอาหารแข็ง หรือการแปรงฟันแรงทำให้เกิดฟันสึกบริเวณคอฟัน

ขั้นตอนในการอุดฟัน

  • การตรวจวินิจฉัย : ทันตแพทย์จะตรวจช่องปากและใช้เครื่องมือหรือบางครั้งอาจต้องถ่ายภาพถ่ายรังสีเพื่อตรวจหาฟันผุ
  • การกำจัดเนื้อฟันที่ผุ : ทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือเฉพาะในการกรอเอาส่วนที่ผุออก โดยบางครั้งอาจจำเป็นต้องใส่ยาชา หากมีฟันผุลึก 
  • การอุดฟัน : บริเวณที่ถูกกรอออกไปจะถูกเติม ด้วยวัสดุอุดฟัน เช่น เรซิน คอมโพสิต อมัลกัม หรือวัสดุอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและขนาดของรอยผุ
  • การปรับแต่งและขัดผิวฟัน : เพื่อให้รูปร่างของฟันเป็นธรรมชาติและไม่ระคายเคืองช่องปาก

ประเภทของวัสดุอุดฟัน

  • วัสดุคอมโพสิต (Composite Resin) : วัสดุผสมเรซินกับแก้ว เซ็ตตัวด้วยแสง UV/LED สีเหมือนฟัน ช่วยกรอเนื้อฟันน้อยและซ่อมแซมง่าย ใช้ได้ทั้งฟันหน้าที่ต้องการความสวยงาม ฟันกรามน้อย และฟันกรามใหญ่ แต่มีข้อจำกัดเรื่องความแข็งแรงน้อยกว่าอะมัลกัม  ติดคราบได้ และขั้นตอนอุดใช้เวลานานกว่า
  • อะมัลกัม (Silver Amalgam) : วัสดุอุดประเภทโลหะผสม แข็งแรงสูง ใช้ได้ดีในฟันกราม รองรับแรงบดเคี้ยวได้ยาวนาน โดยทั่วไปอายุใช้งานราว 10–15 ปี  แต่สีจะไม่กลืนกับฟัน และต้องกรอเนื้อฟันมาก
  • วัสดุเซรามิก หรือพอร์ซเลน (Ceramic) : เหมาะกับรอยอุดขนาดใหญ่ โดยทำเป็นลักษณะ inlay หรือ onlay คือต้องเตรียมฟันก่อน แล้วจึงนำวัสดุมายึดกับฟันภายหลัง แข็งแรงกว่าเรซินและอะมัลกัม สีธรรมชาติ ไม่เปลี่ยนรูปหรือสีเมื่อมีการใช้งานนานๆ ทนทาน ข้อเสียคือ ราคาแพง ต้องทำ 2 ครั้ง เพราะต้องพิมพ์ฟันไปผลิตในแลป
  • วัสดุแก้วไอโอโนเมอร์ (Glass Ionomer) : สีใกล้เคียงกับฟันพอควร มีเฉดสีเดียว สามารถปล่อยฟลูออไรด์ ป้องกันฟันผุได้ แต่ไม่แข็งแรง ใช้ในกรณีฟันเด็ก หรือบริเวณขอบเหงือก บริเวณที่ไม่ต้องรับแรงมาก

การดูแลหลังการอุดฟัน

  • สำหรับวัสดุอะมัลกัม ให้หลีกเลี่ยงการใช้งานภายใน 24 ชั่วโมงแรก
  • รักษาความสะอาดช่องปากอย่างสม่ำเสมอ ได้แก่การแปรงและการใช้ไหมขัดฟัน 
  • ไปพบทันตแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของการอุดฟัน

สามารถปรึกษาทันตแพทย์เพื่อให้คำแนะนำเรื่องวัสดุที่จะใช้ได้ การอุดฟันเป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเพื่อเก็บรักษาฟันธรรมชาติไว้ได้นานที่สุด อย่างไรก็ตาม การดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีอย่างสม่ำเสมอ ร่วมกับการพบทันตแพทย์เป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงของฟันผุ และความจำเป็นในการอุดฟันในอนาคต

หากต้องการคำแนะนำจากเรา